rss
email
twitter
facebook

Saturday, July 24, 2010

‘โอมาอิชิ' แฟรนไชส์บะหมี่ญี่ปุ่นในรถเข็น

รายได้เสริม-บะหมี่ญี่ปุ่นโอมาอิชิคลอด “โอมาอิชิ” แฟรนไชส์บะหมี่ญี่ปุ่น (ราเมน) ในรถเข็นเจ้าแรกของประเทศ ชูแผนอาหารญี่ปุ่นราคาประหยัด ขายได้ทุกแห่ง สูตรเด่นต้นตำรับผสมแบบไทย นำเสนอ 9 เมนูท้าชิม ชามละ 35 บ. ลูกค้าแฮปปี้ ระบุค่าแฟรนไชส์ 85,000 บ. 3 ด.คืนทุน พร้อมจับมือบิ๊กขนส่ง – ปตท. เพิ่มโอกาสผู้ลงทุน

ชัยพิพัฒน์ พฤกษ์วัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีรอแยลห้องเย็น อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด เผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาหารทะเลแปรรูปแช่แข็งมากว่า 15 ปี มีผลประกอบการกว่า 2,000 ล้านบาท ถือเป็นรายใหญ่ติด 1 ใน 3 ของประเทศ เน้นส่งออก 100% ทว่า จากแนวโน้มตลาดส่งออกลดลง ด้วยปัจจัยคู่แข่งเพิ่มขึ้น เช่น จีน , เวียดนาม หรือกฎหมายกีดกันการนำเข้าของประเทศต่างๆ บริษัทฯ จึงหันมาเน้นทำตลาดในประเทศมากขึ้น โดยนำพื้นฐานสินค้าของบริษัท มาแตกไลน์ธุรกิจ เป็นแฟรนไชส์บะหมี่ญี่ปุ่น ในชื่อ “โอมาอิชิ” ซึ่งเป็นรูปแบบรถเข็นรายแรกของไทย

“ผมมองช่องว่างตลาดบะหมี่ญี่ปุ่นที่มีขายอยู่ในขณะนี้ จะมีแต่แบรนด์ใหญ่ และถูกวางตำแหน่งไว้ค่อนข้างสูง แพง และเข้าถึงยาก แต่ตลาดในระดับกลาง และล่างยังไม่มีใครเข้ามาทำตลาด เราจึงรุกในแบบรถเข็น เพราะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย ขายได้ทุกสถานที่ สร้างรายได้เสริมมานักต่อนักแล้ว”

เชื่อชามละ 35 บาท ลูกค้าแฮปปี้

สำหรับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย คืออายุ 10-30 ปี โดยราคาขาย 35 บาท คิดว่า ผู้บริโภคยอมรับได้ เพราะประเมินเศรษฐกิจพื้นฐานของประเทศ ค่าครองชีพในอีก 3-5 ปีข้างหน้า มาตรฐานราคาอาหารต้องขยับเป็นชามละ 30-35 บาทแน่นอน

ทั้งนี้ แม้ปัจจุบัน ราคายังสูงกว่าท้องตลาด แต่มีจุดขายที่เป็นทางเลือกใหม่ อีกทั้ง ยังเน้นที่ปริมาณต่อชามจำนวนมากกว่าทั้งเส้น และเครื่อง กินชามเดียว ก็อิ่มแล้ว แทนที่จะต้องกิน 2 ชาม 40 บาท จึงจะอิ่ม

“ผมมั่นใจเลยว่า ในอนาคตอันใกล้ ฐานเศรษฐกิจค่าครองชีพของเมืองไทยต้องปรับสูง มันจะทำให้จุดต่างของเราแค่ 5 บาท ซึ่งปัจจุบัน บางสถานที่ ราคา 30-35 บาท ถือว่าเป็นมาตรฐานของคนกรุงเทพฯ ไปแล้ว ถ้าจะบอกว่า “โอมาอิชิ”แพง ผมคิดว่า ต้องมีมิติการมองอีกมุมหนึ่ง”

แฟรนไชส์ 85,000 บ. 3 ด.คืนทุน รายได้เสริม-บะหมี่ญี่ปุ่นในรถเข็น

ชัยพิพัฒน์ อธิบายว่า การลงทุนแฟรนไชส์ “โอมาอิชิ” มี 3 รูปแบบ คือ แบบรถเข็น ราคา 85,000 บาท แบ่งเป็นค่ารถเข็น –อุปกรณ์ 60,000 บาท ที่เหลือเป็นค่าดำเนินการและค่าประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ รถเข็นมีให้เลือก 2 ขนาด ตามแต่ความเหมาะของสถานที่ คือ ขนาด 90 x 180 ซม. และ 110 x 230 ซม. โดยมีระบบเงินผ่อน วางดาวน์ 50,000 บาท ที่เหลือผ่อน 3 หรือ 6 เดือน ดอกเบี้ย 1.5% ซึ่งเสียงสะท้อนจากลูกค้าที่ผ่านมา ไม่มีใครติงว่าราคานี้แพง

และนอกจากรถเข็นแล้วนี้ ยังมี แบบเคาน์เตอร์ในตึกแถว ราคารวม 130,000 บาท และ แบบโครงสร้างซุ้มญี่ปุ่นบนพื้นที่ว่าง ในราคารวม 270,000 บาท โดยเมนูอาหาร และรูปแบบการดำเนินงานแฟรนไชส์จะเหมือนกันทั้งหมด

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะมีกำไรหลังหักต้นทุนวัสดุดิบเฉลี่ย 52% ต่อชาม (ประมาณ 16 บาท) ควรจะขายได้อย่างต่ำวันละ 70 ชาม จะมีรายได้เดือนละ 73,500 บาท หลักหักค่าใช้จ่ายเหลือ 31,400 บาท สามารถ ถึงจุดคุ้มทุนได้ในเวลา 3 เดือน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีร้านต้นแบบอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร มียอดขายเฉลี่ยวันละ 100 ชาม และขณะนี้มีลูกค้าจองแฟรนไชส์แล้ว 10 สาขา จึงคิดว่า ยอดขาย 70 ชามต่อวัน ผู้ลงทุนน่าจะทำได้ และในเบื้องต้นบริษัทฯ กำหนดงบประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นการตลาดไว้ที่ 5 ล้านบาท

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ และ thaifranchisecenter

0 comments:

Post a Comment